ก่อนจ้างนักจัดงานเลี้ยงท่านควรดูสิ่งใดเป็นอันดับแรก

สำหรับการผู้ที่เริ่มคิดจะจ้างนักจัดงานเลี้ยงนั้น ประเด็นสำคัญสำหรับผู้ที่เป็นนายจ้างที่เริ่มแรกสุดนั้นก็คือ จะจ้างดีไหม  จ้างแล้วคุ้มไหม  ซึ่งปัญหาเหล่านี้มักไม่ได้รับคำตอบเลย ยกเว้นคุณจะมีเพื่อนที่เคยจ้างงานนักจัดงานเลี้ยงคนนั้นๆ หรือไม่ ผู้ที่เคยจ้างก็จะบอกๆต่อๆกันออกไป  บ้างก็ได้นักจัดที่ถูกใจ บ้างก็ไม่ถูกใจซึ่งประเด็นเหล่านี้จะหมดไป เมื่อท่านอ่านและทำความเข้าใจสำหรับบทความนี้คะ ก่อนจ้างคุณควรเริ่มศึกษาสิ่งหนึ่งที่เรียกว่า ขอบเขตการทำงานของนักจัดงานเลี้ยงเสียก่อน   ก่อนอื่นท่านต้องทราบก่อนว่าในรายนักจัดงานเลี้ยงนั้นๆ ที่ท่านต้องการจ้างให้ทำงานให้นั้นสามารถทำอะไรได้บ้าง  เช่น ติดต่อสถานที่ได้หรือไม่ ?   จัดหาพ่อครัว เด็กเสริฟได้ไหม ?   มีโปรไฟล์หรือปล่าว อย่างนี้เป็นต้น  หรือนักจัดงานเลี้ยงคุณมีทีมงานแยกย่อยที่สามารถติดต่อประสานเข้าหากันได้หรือไม่  ซึ่งในรายของผู้ที่จัดงานเลี้ยงและมีขอบข่ายและเครือข่ายกว้างนั้นมักได้เปรียบมากกว่าและสามารถลดต้นทุนได้ดีกว่าอีกด้วย   ยกตัวอย่างเช่น  ในกรณีที่คุณจะจัดในสถานที่ A  ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองออกไปสามสิบกิโลเมตร   ซึ่งโดยปกตินั้นการจ้างเด็กเสริฟ หรือทีมงานเสริมนั้นจำเป็นต้องบวกค่าเดินทางและคิดค่าแรงเพิ่มเติมอีกต่างหาก (ตามระยะทางที่ไกลออกมา)   แต่หากนักจัดงานเลี้ยงคุณรู้จักและมีเครือข่ายของสายงานที่กว้างขวาง การต่อรองราคานั้นสามารถทำได้ดีกว่าผู้ที่ไม่รู้จัก   หรือหากมีคนในพื้นที่หรือพนักงานใกล้เคียงมากกว่า ราคาการจ้างงานก็จะยิ่งถูกลงมาอีก (ซึ่งตรงจุดนี้ทางนักจัดงานเลี้ยงจะนำมาลดและหักออกจากราคาต้นทุนเข้าไปอีก เพื่อให้สามารถ เจรจาต่อรองกับลูกค้าได้สะดวกมากขึ้น) ก่อนจ้างสิ่งที่คุณต้องดูต่อมานั้นก็คือผลตอบรับของลูกค้าที่เคยติดต่อจ้างงานนักจัดงานเลี้ยงคนนั้น    โดยส่วนมากคุณไม่สามารถดูผลงานจากเพียงภาพถ่ายได้  ซึ่งบรรยากาศภายในงานนั้นดีหรือไม่  หรือคิวงานตรงหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่คุณไม่สามารถสัมผัสได้จริง  หรือหากนักจัดงานที่คุณกำลังสนใจจะจ้างมีผลงานใหญ่ ที่สามารถเช็คงานย้อนหลังได้นั้นยิ่งดีเข้าไปใหญ่  เช่น เคยจัดงานเลี้ยงให้กับบริษัท หรือเคยจัดงานเลี้ยงจนแขกในงานชมจนออกปากกันทั่วทั้งงาน) เหนือสิ่งอื่นใดนั้นก่อนการว่าจ้างงานแต่ละครั้งผู้จ้างควรศึกษารายละเอียดให้ชัดเจน เช่นค่าใช้จ่าย งบประมาณโดยคร่าวๆ ซึ่งเรื่องนี้นับเป็นปัญหาปวดหัวอยู่ไม่น้อยสำหรับผู้จ้างและนักจัดงานเลี้ยง  ซึ่งเหตุการณ์การสื่อสารไม่เข้าใจนี้มักเป็นปัญหาภายหลังการจัดงานหรือ ช่วงการจ่ายเงินนั้นเอง