คำถามยอดฮิตสำหรับบ่าวสาวหลายท่าน ที่นับถือศาสนาพุทธทั้งคู่ แต่ฝันอยาก แต่งงานแบบคริสต์ แวดล้อมด้วยบรรยกาศสวยๆ มีพิธีสวมแหวนที่หวานซึ้ง ให้คำสัญญากันต่อหน้าพระเจ้า และเดินอกมาท่ามกลางความปลื้มปิติโปรยดอกไม้แบบในละคร แหม่ ใครๆก็ฝันอยากเป็นแบบนั้นบ้างใช่มั้ยละคะ
ซึ่งจริงๆแล้ว เราสามารถนำสไตล์การ แต่งงานแบบคริสต์ มาปรับใช้ได้ค่ะ แต่ทำไม่ได้เหมือนเป๊ะทั้งหมด เพราะบาทหลวง หรือศิษยาภิบาล ไม่สามารถทำพิธีให้ได้ และเราก็ไม่สามารถไปทำพิธีที่โบสถ์ได้เช่นกัน เนื่องจากเป็นกฎสำคัญของชาวคริสต์ ที่เชื่อว่าพิธีแต่งงานเป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์ เสมือนการสาบานตนต่อหน้าพระผู้เป็นเจ้า ว่าจะรักและดูแลกันตลอดไป ผู้ที่ยังไม่ได้เชื่อในพระเจ้า และพระเยซู ก็ไม่สามารถขอใช้สถานที่ หรือยืมตัวผู้นำศาสนาไปให้ทำพิธีแบบเล่นๆได้ค่ะ
แต่จริงๆแล้ว พิธีหมั้นแบบไทย มีบางอย่างคล้ายคลึงกับพิธีแบบคริสต์ค่ะ มาดูกันดีกว่าว่า เราจะนำพิธีแบบคริสต์มาปรับใช้กับงานสไตล์ไทยของเราได้อย่างไร
1. เปลี่ยนสถานที่
ฉากสำคัญของงานแต่งแบบคริสต์คือ การเดินเข้าของเจ้าสาว และการเดินออกไปเป็นคู่ ในสถานที่ที่สวยงาม ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นดบสถ์เท่านั้น เราสามารถใช้ที่โล่งกว้าง หรือสถานที่ที่มีพื้นที่ทางยาว อย่างเช่น สวนสวยๆ หรือในโรงแรมก็ทำได้ เน้นที่มีทางยาว เพื่อให้บ่าวสาวได้เดินไปท่ามกลางความยินดีของทุกคน
มาลองดู –> สถานที่แต่งงานเก๋ๆ <— ไม่ง้อโรงแรมกันค่ะ
2. การจัดเก้าอี้จัดแบบเว้นตรงกลางเป็นทางยาว แล้วให้เก้าอี้ตีกรอบล้อมเส้นตรงกลาง พร้อมกับผูกริบบิ้นกั้นเป็นแนวยาว เพื่อความสวยงาม และเพื่อเป็นการให้แขกเดินเข้าทางเดียว ไม่เดินทับทางเดินของเจ้าสาวก่อนเริ่มงานค่ะ
3. เปลี่ยนจากบาทหลวง เป็นผู้ใหญ่ที่เราเคารพ
ในพิธีคริสต์จะมีผู้ทำพิธีเป็นบาทหลวง หรือศิษยาภิบาล มานำอ่านข้อพระคัมภีร์เกี่ยวกับการใช้ชีวิตคู่ ตรงนี้เราอาจจะให้ ตัดไปสู่การให้คำสัญญาต่อกันได้เลย (โดยตรงนี้บ่าวสาวควรทำการบ้าน เตรียมบทพูดหวานซึ้งของกันและกันมาก่อน) หรือถ้าไม่รบกวนผู้ใหญ่ที่เราเคารพ ก็อาจต้องจ้าง Celebrant หรือนายพิธีสำหรับศาสนาคริสต์ ซึ่งจะเป็นผู้มีประสบการณ์ในการลอกเลียนแบบพิธีทางศาสนาคริสต์ได้ดีที่สุดค่ะ
ขั้นตอนการทำพิธี ฉบับปรับใช้ให้คล้ายพิธีชาวคริสต์
– เริ่มตั้งแถวเข้างานโดยเพื่อนเจ้าบ่าวจะอยู่เป็นหัวแถว นำขบวนเจ้าบ่าวเข้ามาในงาน (เพื่อตั้งแถวรอเจ้าสาวเข้ามา) ตามด้วยขบวนของเจ้าสาว ที่มีเพื่อนๆนำแถว ตามด้วยเด็กชายถือแหวน เด็กหญิงโปรยดอกไม้ และเป็นเจ้าสาวควงแขนคุณพ่อเข้ามา เมื่อเดินมาถึงที่ทำพิธี คุณพ่อจะส่งมอบเจ้าสาวให้กับเจ้าบ่าวค่ะ
– ผู้ใหญ่(ผู้ทำพิธี) กล่าวแนะนำถึงชื่อบ่าวสาว เล่าถึงความรักของทั้งคู่โดยย่อ เช่น รักกันยาวนานเท่าไหร่ ผ่านอุปสรรคอันใดมากมาย เป็นต้นค่ะ และส่งต่อให้บ่าวสาวพูดล่าวคำสัญญาต่อกัน
– หลังจากให้คำสัญญาต่อกัน ผู้ทำพิธีจะถามว่า “มีสิ่งใดใช้แทนคำสัญญานั้น” เพื่อนเจ้าบ่าวจะส่งแหวนให้เจ้าบ่าวสวมให้เจ้าสาว และเจ้าสาวก็สวมแหวนอีกวงให้เจ้าบ่าวเช่นกัน อันเป็นพิธีแลกแหวนเสร็จสมบูรณ์
– ต่อมาให้บ่าวสาวเดินมาที่จุดเทียน (ในทางคริสต์เรียกว่าเทียนครอบครัว) ด้วยกัน เปรียบเสมือนการเร่ิมต้นใหม่ของครอบครัวเรา เสร็จแล้วบ่าวสาวเดินออกมาทางเดิมด้วยกัน ท่ามกลางการโปรยดอกไม้แสดงความยินดีของทุกคนในงาน ช็อตนี้ช่างภาพต้องเตรียมตัวให้พร้อม จะได้รูปสวยเต็มอารมณ์แห่งความปลื้มปิติมากๆค่ะ
จริงๆแล้วหัวใจสำคัญของงานสไตล์คริสต์ อยู่ที่การแสดงออกต่อกันของบ่าวสาวอย่างลึกซึ้ง และการเคารพให้เกียรติต่อพิธีของแขกทุกคนในงาน ทำให้งานสไตล์นี้แตกต่างจากงานสไตล์ไทยๆ ที่เราจะเน้นให้แขกได้ทานไป พร้อมกับการที่เราทำพิธีต่างๆบนเวทีไปด้วย บรรยกาศเลยอาจจะไม่ดูจริงจังเท่าพิธีสไตล์คริสต์ค่ะ ดังนั้น คู่บ่าวสาวชาวพุทธลองนำไปปรับใช้ดูนะคะ ให้เป็นงานของเรา สไตล์คู่ของเราค่ะ
เมื่อได้ธีมงาน และลำดับพิธีงานคร่าวๆแล้ว ลองมาดู รูปแบบอาหารจัดเลี้ยงที่เหมาะกับงานสไตล์ของคุณ กันต่อเลยค่ะ งานนี้จะให้ครบคำว่าเพอร์เฟ็ก ก็ต้องอย่าลืมอาหารที่อร่อย และมีสไตล์เข้าธีมเราด้วยนะคะ
No Comments