มาถึงเรื่องของอาหาร สำคัญนะคะ เรื่องปากท้องเนี่ย สำหรับ อาหารที่ใช้จัดเลี้ยงงานแต่งงาน นั้น มาเริ่มตั้งแต่งานหมั้นกันก่อนเลย สำหรับแขกที่มาร่วมงานพิธีในช่วงเช้า ที่ส่วนใหญ่จะเป็นการเลี้ยงรับประทานอาหารกลางวันเลย หลังจากเสร็จพิธีรดน้ำ ซึ่งบางงานอาจจะมีการจัดคอฟฟี่เบรกให้แขกในช่วงเช้าด้วยเพราะบางท่านอาจจะไม่ได้ทานข้าวเช้ามา
อาจจะหิวคอฟฟี่เบรกควรจะมี สำหรับงานเช้าด้วยนะคะ เพราะกว่าพิธีจะเสร็จอาจจะนานเกินไปค่ะ คอฟฟี่เบรกอาจจะเป็น กาแฟ ชา โอวัลติน กับขนม โดยเฉพาะขนมไทยซึ่งเป็นขนมมงคล ก็น่ารักดีค่ะ อย่างเช่น ขนมชั้น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง เม็ดขนุน หรือจะเป็นขนมฝรั่งอย่างพัฟ พาย แยมโรล หรือเค้ก เพื่อให้แขกทานรองท้องก่อนพิธีจะเสร็จค่ะ
เสร็จจากคอฟฟี่เบรก ก็ต่อด้วยอาหารกลางวันหลังจากพิธีหมั้นเสร็จ ที่ส่วนใหญ่จะจัดเป็น โต๊ะจีน โต๊ะละประมาณ 8-10 คน สำหรับตัวของขวัญเองแล้วช่วงกลางวัน จะชอบอาหารไทยมากกว่าค่ะ จะขอเรียกว่าโต๊ะไทยแทน โต๊ะจีน ละกัน เพราะสำหรับอาหารที่จะรับประทานหลังจากพิธีเช้าแล้วหากเป็นอาหารจีนคงจะเลี่ยนเกินไป เมนูอาหารไทยที่จะมาแนะนำกันสำหรับงานจัดเลี้ยงช่วงกลางวัน ควรจะมีประมาณ 6-8 อย่างนะคะ เมนูที่นิยมกันมาก ก็ไม่พ้นเมนูอาหารมงคล ไม่ว่าจะเป็นห่อหมก ด้วยความหมายของคำว่าเออออห่อหมก บ่าวสาวจะได้มีความเห็นสอดคล้องเข้ากันไปในทุกเรื่อง เมนูประเภทลาบ ตามคำเลย ก็คือจะได้มีโชคลาภ ขนมจีบ จะได้รักกันเหมือนตอนจีบใหม่ๆ ขนมจีนน้ำยา จะได้ตัดกันไม่ขาดเหมือนเส้นของขนมจีน หรือหากใครคิดไม่ออกว่าจะเลือกเมนูอาหารอะไรสำหรับเลี้ยงแขกดี แนะนำให้ลองปรึกษาร้านอาหาร หรือออแกไนซ์ที่รับจัดเลี้ยงงานแต่ง หรือรับจัดเลี้ยง งานพิธี รับรองว่าจะได้ไอเดียเมนูอาหารมากมาย ของขวัญขอแนะนำเมนูอาหารที่นิยมเลี้ยงกลางวันกันอีกสักหน่อยแล้วกัน ส่วนตัวที่ชอบมาก ได้แก่ ยำผักกูดกุ้งสด แกงส้มปลากะพงยอดมะพร้าว น้ำพริกไข่ปู ทอดมันกุ้ง ปลาเก๋าราดพริก ส่วนของหวานส่วนตัวที่ชอบก็คือ สาคูแคนตาลูป กับลอดช่องแตงไทย ยังไงก็ลองเอาไปผสมผสานกับเมนูอาหารมงคลกันดูตามที่ชอบได้เลยนะคะ
ต่อด้วยงานเย็นกันเลยค่ะ หนีไม่พ้นโต๊ะจีนแน่นอน ซึ่งเคล็ดลับการเลือกอาหารนั้นจะบอกว่าขึ้นอยู่กับงบประมาณของแต่ละคู่ด้วย ว่ามีงบประมาณโต๊ะละจำนวนเท่าไหร่ แล้วลองปรึกษาการบริการรับจัดโต๊ะจีน กันดู ซึ่งราคาส่วนใหญ่จะเริ่มต้นตั้งแต่โต๊ะ ประมาณ 2,000 บาท สำหรับ 10 ท่าน อาหารประมาณ 10 อย่าง รวมของหวานด้วยก็อาจจะเป็น 11 อย่าง โดยเมนูที่แน่ๆ ว่าต้องมีบนโต๊ะจีนก็คือออเดิร์ฟ ที่ต้องเสริฟให้แขกที่มาร่วมงานทานรองท้องกันก่อน หรืออาจจะมีเมนูก่อนออเดิร์ฟ อย่างข้าวเกรียบหรือเม็ดมะม่วงมาเสริฟก่อนก็ได้ เผื่อแขกที่มาเร็วจะได้ไม่ต้องนั่งว่าง ส่วนอาหารที่ควรจะมีก็คือเมนูซุป จะได้ลื่นคอกันหน่อย ไม่ว่าจะเป็นกระเพาะปลา หูฉลาม หรือซุปเยื่อไผ่ตามแต่งบประมาณ เมนูปลา เช่นปลานึ่งมะนาว ผัดผัก สลัด หรือยำ เพิ่มด้วยเมนูแห้งๆ อย่างเมนูเป็ดหรือขาหมูหมั่นโถว เมนูข้าวผัดหรืออาจจะเป็นผัดหมี่ ตามด้วยเมนูของหวาน อาจจะเป็นผลไม้ลอยแก้ว แปะก๊วย หรือข้าวเหนียวเผือกแปะก๊วยตามชอบ
ที่สำคัญสุดๆ สำหรับงานเย็น ก็คือ เวลาของการออกอาหาร ที่ต้องกำชับให้ดีว่าอาหารแต่ละรายการควรออกอย่างต่อเนื่อง ไม่ช้า ไม่เช่นนั้นแล้ว แขกที่มาอาจจะบ่นและไม่ประทับใจได้ค่ะ อ้อ และที่สำคัญอีกอย่างคืออย่าลืมชิมอาหารก่อนที่จะตัดสินใจเลือกนะคะ เพื่อที่จะได้อาหารอร่อยๆ ไว้เลี้ยงแขกในงานของเราค่ะ
เครดิตภาพ :
https://pixabay.com/th/photos/download/party-1405166_1280.jpg?attachment&modal
No Comments