ค่าใช้จ่ายในรายละเอียดงานเลี้ยง

สำหรับหลายๆท่านที่กำลังคิดจะ จัดงานเลี้ยง นั้นต่างก็ต้องประสบปัญหาปวดหัวด้านเงินๆทองๆเป็นปัจจัยหลักๆในการคิดแล้วคิดอีกว่าจะจ้างนักจัดหรือจะจัดงานเลี้ยงด้วยตนเอง ซึ่งค่าใช้จ่ายต่างๆนั้นทางผู้เขียนอยากจะเข้ามาเสนอแนะให้ทางผู้อ่านหรือผู้ที่คิดจะจ้างนั้นได้ทราบในกรณีต่างๆและทราบกันคร่าวๆเสียก่อน เพื่อเป็นความรู้และความเข้าใจในการตัดสินใจประกอบว่าจะจัดจ้างนักจัดงานเลี้ยงหรือไม่

สำหรับค่าใช้จ่ายในงานเลี้ยงนั้นจะจ่ายเงินเป็นรายละเอียดย่อยๆแตกต่างกันไป   บางรายอาจคิดเงินค่าจัดเป็นกรณีรวมหรือ มีบิลค่าใช้จ่ายให้ท่านได้เลือก  บางรายรับจัดเฉพาะอย่าง ซึ่งการจ่ายเงินนั้นผู้เขียนขอเขียนแยกย่อยให้ท่านผู้อ่านได้ทราบดังกรณีต่อไปนี้

ค่าใช้จ่ายสำหรับอาหาร   ในกรณีของอาหารนั้นส่วนมากจะเหมารวมทั้งเชฟ  พ่อครัว โต๊ะ จาน ชาม   เด็กเสริฟ  หรือในกรณีแยกย่อยมากกว่านั้นจะไม่มีเด็กเสริฟไว้คอยบริการ จำเป็นต้องจ้างแยกออกไปเป็นกรณีๆอีกต่างหาก ซึ่งหากให้ทางผู้เขียนแนะนำนั้นควรจ้างเหมารวมในกรณีของอาหาร เนื่องจากจะได้จ่ายเงินในก้อนเดียว อีกทั้งเด็กเสริฟที่เหมารวมในเคจของอาหารเลยจะมีราคาจ้างถูกกว่าเด็กเสริฟแยกย่อยออกมา

ค่าใช้จ่ายสำหรับพิธีกร   ในบางงานนั้นต้องการจ้างพิธีกรมืออาชีพ  โดยจะมีตัวเลือกให้สามกรณี  ชายเดี่ยว หญิงเดี่ยว หรือชายหญิง  ซึ่งการใช้งานนั้นจะแยกย่อยแตกต่างกันออกไปเช่นในกรณีงานที่เป็นทางการเสียหน่อยนั้นจะเลือกใช้พิธีกร ชายหญิง ซึ่งการจ่ายเงินลักษณะนี้ก็ต้องดูเป็นเคจๆไปอีกด้วยว่าทางผู้จัดหรือทางพิธีกรนั้นมาด้วยกันหรือไม่ หรือต่างฝ่ายต่างแยกการรับเงิน  (ซึ่งค่าจ้างของพิธีกรนั้นไม่ตายตัวมากนัก มีหลายราคาแตกต่างกันออกไป)

ค่าใช้จ่ายสำหรับนักร้อง นักดลตรี  ในกรณีของบทเพลงหรือดลตรีนั้นจะแยกกันออกอย่างเด่นชัดสองกรณี คือมาด้วยกัน เป็นทีมงานเดียวกัน ซึ่งลักษณะนี้จะเป็นในทางของวงดนตรี หรือมาในกลุ่มบุคคลนี้มีน้อย    แตกหากงานเลี้ยงนั้นๆท่านต้องการดนตรีเครื่องวงใหญ่อาจต้องจ้างแยกกันออกไปเป็นสองส่วน ซึ่งค่าจ้างตรงจุดนี้ หากจ้างแบบเหมารวมนั้นจะมีราคาที่ถูกมากกว่า

ค่าใช้จ่ายสำหรับสถานที่   การใช้งานสถานที่ต่างๆนั้นจะมีค่าใช้จ่ายที่ไม่เท่ากัน  มีตั้งแต่หลักพันยันหกหลักด้วยกัน ซึ่งการใช้สถานที่ต่างๆนั้นมีข้อจำกัดยิบย่อยเต็มไปหมด  บางที่ห้ามใช้เครื่องเสียง  บางที่ห้ามดื่มแอลกอฮอร์  หรือบางที่ให้จัดภายใต้เวลาจำกัด อย่างนี้เป็นต้น ซึ่งการผิดสัญญานั้น ในเคจที่เบาที่สุดก็คือมีการเจรจายอมกันได้ บางเคจที่ใหญ่ๆถึงขั้นไม่ยอมหรือเรียกเก็บเงินเพิ่มก็มี